🚀 Kosol.net

Published

- 5 min read

ทำไมผมถึงเลือก Macbook Pro M2

img of ทำไมผมถึงเลือก Macbook Pro M2

ขอเริ่มต้นที่ Macbook เครื่องแรกที่ผมใช้เครื่องแรกเลยจะเป็น Macbook Air รุ่นแรกๆ ที่ Steave Jobs เอาออกมาจากซองเอกสาร ถามว่าประทับใจอะไรที่สุด น่าจะเป็นขนาดที่บางเบามาก มี Track Pad ที่ใช้แทนเมาส์ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ Macbook Air ตัวนั้นก็มีข้อจำกัดที่จุกจิกพอสมควร (ขอยังไม่พูดถึงในที่นี้) จนต้องกลับไปใช้ Notebook ที่เป็น Windows ที่มีหน้าจอใหญ่กว่า มีช่องเชื่อมต่อมากกว่า ได้สเปคเครื่องที่สูงกว่า

กลับมาใช้ macOS อีกรอบ

หลังจากกลับมาใช้ Windows มาสักระยะหนึ่งก็พบว่ามี เอ่อ อยากกลับไปใช้ macOS แล้วอ่ะ สุดท้ายก็ได้ใช้ Macbook Pro 16 นิ้ว ปี 2019 Intel Core i7 รุ่นที่มี Touch Bar / Touch ID ขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตา ใช้งานได้เป็นอย่างดีจนกระทั่งก่อนวันที่ Apple จัด Event Scary Fast เพื่อเปิดตัว Macbook M3 เท่านั้นแหล่ะ ทำไมชาร์จไฟไม่เข้าแล้วอ่ะ เช็คไปเช็คมา…อ้าว USB ไปซะแล้ว 2 ช่อง (โชคดีที่รุ่นนี้มี USB 4 ช่องยังเหลืออีก 2 ช่อง ที่ยังพอใช้ได้อยู่) จะเอาไปซ่อมเจอค่าซ่อม (ศูนย์) เริ่มต้นที่ 3,000+ แต่ถ้าต้องเปลี่ยนบอร์ดน่าจะเริ่มต้นที่ 12,000+ ถ้าจะซ่อมก็ไม่มีเครื่องใช้อีกเป็นสัปดาห์


ถึงจุดนี้จึงเริ่มมองหาทางเลือกแล้วว่าจะทำยังไงต่อ

  • ใช้ Macbook Pro เครื่องเดิมนี้ต่อไป
  • หา Macbook หรือ Notebook เครื่องใหม่มาใช้แทน

ใช้ Macbook Pro เครื่องเดิม ถนอมหน่อยจะให้ใช้ต่อได้นานๆ

เป็นคุณจะเลือกข้อไหน แต่ละข้อต่างก็มีข้อดี ข้อจำกัดที่ต่างกันไป แน่นอนว่าถ้าเลือกข้อ 1 น่าจะเป็นทางเลือกที่ประหยัดที่สุด ใช้ไปก่อน ยังเหลือ USB อีกตั้ง 2 ช่อง จากนั้นก็เริ่มมองหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ USB 2 ช่องนี้ให้อยู่ไปได้นานที่สุด พยายามเสียบ/ถอดสายให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นก็นึกถึง Macsafe (จำเป็น) ที่เป็นแม่เหล็กมาเสียบที่ช่อง USB ในเครื่องไว้ ใช้แทนการเสียบ/ถอดสาย น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องระวังไม่ให้โดนกระแทกอีกเพราะต้องเสียบตัวรับไว้ติดเครื่องตลอดเวลา ถ้าพลาดมาหล่ะก็จบเลย 2 Port สุดท้าย

Windows Notebook ทางเลือกที่นอกเหนือจาก macOS

ทางเลือกต่อมา หาเครื่องใหม่มาใช้ปัญหาแรกเลย คือ ราคาค่าตัวของ Macbook Pro M3 ที่เมื่อไปเทียบกับ Notebook ฝั่ง Windows แบบแรงๆ ได้มากกว่า 2 เครื่อง แต่ก็ติดที่ Mac ยังมี Parallel หรือ VMWare ให้ลง Windows ใช้งานได้ลื่นๆ ไม่มีข้อจำกัดอะไร แต่ถ้าเป็น Notebook Windows จะลง macOS ก็ไม่ง่าย หรือถ้าลงได้ก็ใช้ได้ระดับหนึ่งมีข้อจำกัดในการใช้งานพอสมควร (เคยใช้แล้วไม่ค่อย work ถ้าเทียบกับการใช้บนเครื่อง MacBook จริงๆ) อีกทั้งจะตัดใจเลิกใช้ macOS ไปเลย ดูแววแล้วสุดท้ายก็ต้องกลับมาใช้อีกอยู่ดี (ติดซะแล้ว) ดังนั้นจึงต้องตัดทางเลือก Notebook Windows นี้ไปด้วยเหตุผลนี้

Mac Mini ทางเลือกสำหรับคนที่เน้นเรื่องราคา ไม่เน้นพกพา

ในเมื่ออยากใช้ macOS ต่อ คงไม่พ้นต้องหาเครื่อง Mac มาใช้ แล้วมีตัวเลือกอะไรบ้างหล่ะ จากนั้นก็เปิดเว็บ Apple จึงพบว่า Mac Mini นี่แหล่ะคือคำตอบ เพียงหาจอ, เมาส์, คีย์บอร์ด มาต่อก็ได้ใช้ macOS สมใจ ในงบประมาณไม่เกิน 30,000 แต่… แล้วจะเอาไปทำงานยังไงหล่ะ ก็ถอดเครื่อง แล้วเอาไปต่อจอ, ต่อเมาส์, ต่อคีย์บอร์ด ที่ทำงานสิ แล้วจะไปประชุมที่บริษัทลูกค้ายังไงอ่ะ คงต้องขอยืมจอ, เมาส์, คีย์บอร์ดลูกค้าใช้หรือยกไปทั้งชุดน่ะ สำหรับแนวทางนี้ Mac Mini น่าจะเหมาะกับคนที่ทำงานที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน ที่ไม่ต้องไปพบลูกค้าบ่อยๆ อย่างเราน่ะ

iMac ทางเลือกสำหรับคนเน้นจอใหญ่เต็มตา ภาพสวย ไม่เน้นพกพา

ทางเลือกต่อไป iMac หล่ะ ไม่ต้องต่อจอ แล้วต่อเมาส์, คีย์บอร์ด บูลธูทเลย ตอบโจทย์กว่า Mac Mini อีกอย่างจอภาพที่ได้ก็มีขนาดใหญ่ 24 นิ้ว เต็มตาเต็มจอกว่า MacBook อีก แถมคุณภาพที่ได้ก็สุดยอดน้องๆ Studio Display เลย แต่… เรื่องราคาเทียบกับ Mac Mini แล้ว ซื้อ Mac Mini ได้ 2 เครื่องเลยน่ะ และการพกจอ 24 นิ้ว ที่มีขนาดใหญ่มากๆ นี้ไปทำงาน หรือไปหาลูกค้า iMac ก็น่าจะยังไม่ตอบโจทย์อยู่ดี Macbook ทางเลือกสำหรับคนที่เน้นพกพา ที่อยากใช้ macOS

สุดท้ายก็กลับมาที่ Macbook แล้วจะเลือกรุ่นไหนดีหล่ะ มีทั้ง Macbook Air 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ส่วน Macbook Pro ก็มีทั้ง M1, M2, M3 แล้วก็ยังแบ่งเป็น Pro เป็น Max ขนาดหน้าจอก็มีตั้งแต่ 13, 14, 16 นิ้ว จะไปเทียบสเปคที่เว็บ Apple ก็มีบอกราคาเริ่มต้นที่รุ่นเล็กสุด แต่สเป็คบอกแต่รุ่นที่แรงสูงสุด หรือสเปคสูงสุดที่เพิ่มได้ (ตาปริบๆ) เตรียมเข้าเรื่องที่เป็นเนื้อหาหลักของบทความนี้

จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ว่าจากที่หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บของ Apple, ข่ายเปิดตัวต่างของ Macbook M1, M2, M3 หรือจาก Youtuber ช่องต่างๆ แล้วนำมาย่อยตามที่เข้าใจ เพื่อช่วยเพื่อนๆ ที่มาอ่านบทความนี้ได้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือก mac ที่เหมาะกับตัวเอง โดยเนื้อหาในบทความนี้จะพยายามทำให้กระชับ เข้าใจง่าย เน้นจุดเด่น/จุดสังเกตุที่เหมาะกับการใช้งานจริง ขนาดหน้าจอ 13, 14, 15, 16 เลือกขนาดไหนดี

เน้นพกพา เลือกจอเล็ก 13, 14 นิ้ว

Macbook Air 13 นิ้ว เป็นทางเลือกที่เหมาะกับการพกพา ด้วยขนาดหน้าจอที่เล็ก ตัวเครื่องจึงมีขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ

Macbook Pro 13 หรือ Macbook Pro 14 นิ้ว เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เน้นพกพา แต่ก็ต้องการประสิทธิ์ภาพ และต้องการพัดลมในการระบายความร้อนไม่ให้ความเร็วตกเมื่อเครื่องทำงานหนัก

เน้นเต็มตา เลือกจอใหญ่ 15, 16 นิ้ว

Macbook Air 15 นิ้ว เป็นทางเลือกสำหรับคนที่เน้นพกพา เครื่องใหญ่สักหน่อย แต่เครื่องบาง เบา โดยได้หน้าจอขนาดใหญ่ สบายตา ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ

Macbook Pro 16 นิ้ว เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการเน้นจอใหญ่ เครื่องแรง แต่ก็ยังพกพาไปไหนได้ง่าย ครบ จบ ในเครื่องเดียว

สำหรับหัวข้อนี้ผมได้ตัดสินใจเลือก Macbook Pro 16 นิ้ว เหตุผลหลักคือจอใหญ่เต็มตา (อายุมากแล้ว) และต้องการที่เปิดหลายหน้าจอใช้พร้อมกัน (Code ฝั่งนึง ดูผลลัพธ์อีกฝั่งหนึ่ง)


Macbook Air หรือ Macbook Pro เลือกรุ่นไหนดี

เน้นราคา เน้นพกพา เลือก Macbook Air

Macbook Air มีจุดเด่นเรื่องขนาดที่บาง เบา เนื่องจากไม่มีพัดลม (ข้อดีคือไม่มีเสียงพัดลมแน่ๆ) โดยราคาของ Macbook Air รุ่นเริ่มต้นจะถูกกว่า Macbook Pro พอสมควร ส่วนเรื่องประสิทธิ์ภาพสามารถทำงานทั่วไปได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการ Upgrade RAM หรือ SSD ควรเปรียบเทียบว่า upgrade แล้วราคาอาจจะใกล้เคียงกับ Macbook Pro ได้

เน้นประสิทธิ์ภาพ ใช้งานหนักๆ เลือก Macbook Pro

Macbook Pro จะมี CPU, GPU หรือ สเปคของรุ่นเริ่มต้นที่สูงกว่า Macbook Air มาก โดยเฉพาะงานที่ต้องมีการประมวลผลหรือใช้ CPU, GPU ต่อเนื่องๆ เป็นระยะเวลานานๆ โดย Macbook Pro จะมีพัดลมสำหรับระบายความร้อน (ช่วยให้ความแรงไม่ตก เนื่องจากมีการระบายความร้อนที่ดี) สำหรับหัวข้อนี้ผมได้ตัดสินใจเลือก Macbook Pro เช่นกัน เนื่องจากงานที่ผมทำจำเป็นต้องมีการประมวลผลต่อเนื่อง มีการรัน Virtual Machine หรือ Emulator ที่ต้องใช้ประสิทธิ์ภาพเครื่องเยอะอยู่พอสมควร ซึ่ง Macbook Pro รุ่นที่เลือกจะต้องมีจำนวน CPU เยอะสักหน่อย RAM 8GB ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของ Macbook Air น่าจะไม่พอใช้


Apple Silicon M1 | M2 | M3 เลือกรุ่นใหนดี

อ้างอิงจากวันที่เขียนบทความ Apple M1 เป็นรุ่นแรกที่ใช้ Apple Silicon รุ่นแรกที่เปิดตัวมาประมาณ 2 ปีกว่าๆ แล้ว จากนั้นทาง Apple ก็ออก Apple M2 มาช่วงต้นปี 2023 จากนั้นปลายเดือน ต.ค. 2023 ช่วงวันฮาโลวีน ทาง Apple ได้จัดงาน Scary Fast เปิดตัว Apple M3 ซึ่งกำลังจะเปิดจำหน่าย พ.ย. 2023 โดยได้ยกเลิกการจำหน่าย Macbook M2 ตั้งแต่วันที่เปิดตัว สิ่งที่เห็นจากการเปิดตัว Macbook Pro M3 คือ ไม่มี Macbook Pro M2 ให้ซื้อผ่านเว็บ Apple แล้ว และก็ยังไม่มี M3 ให้กดสั่งซื้อ (ยังไม่พร้อมจำหน่าย) ทางเลือกตอนนี้ก็จะเหลือที่ Macbook Air M1 และ Macbook Air M2 ที่เปิดให้สั่งซื้อได้

ถึงตรงนี้เกิดความลังเลว่าจะเลือก Macbook Air 15 นิ้ว ที่ใช้ Chip Apple M2 แทนไหม หรือจะลองหาจากตัวแทนจำหน่าย Apple เช่น Advice, Banana, Central, Com7, Ufical, … ดู เผื่อมี Macbook Pro M1 หรือ Macbook Pro M2 ที่ลดล้างสต๊อกอยู่ น่าจะได้ราคาที่ถูกกว่า ตกรุ่นนิดหน่อย แต่ได้ของดีราคาถูก (นิดนึง) หรือจะรออีกสักหน่อย จ่ายแพงอีกสักหน่อยเป็น Macbook Air M3 ไปเลย

สำหรับหัวข้อนี้ผมได้ตัดสินใจเลือก Macbook Pro M2 เนื่องจาก

  • เกือบเลือก Macbook Air 15 นิ้ว เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายมีการลดราคาลง แต่ติดที่สเปคเริ่มต้นไม่เพียงพอ และต้อง Upgrade RAM, SSD ซึ่งราคาก็น้องๆ Macbook Pro ซึ่งตัวแทนจำหน่ายจะมีเฉพาะรุ่น base model จึงต้องตัดไปเนื่องจากไม่สามารถ Upgrade ได้
  • เกือบเลือก Macbook Pro M1 เนื่องจากเจอร้านหนึ่งลดล้าง Stock อยู่ ราคาพอๆ กับ Macbook Air แต่ด้วยความที่ออกมา 2 ปีกว่าแล้ว น่าจะไปต่อได้อีกไม่กี่ปีเมื่อเทียบกับ M2, M3 ที่เพิ่งออกมาเมื่อปี 2023
  • เกือบเลือก Macbook Pro M3 เนื่องจากความสดใหม่ และเทคโนโลยีการผลิตแบบ 3 นาโนเมตร ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพและประหยัดพลังงานได้ดีกว่า มี Dynamic Cache มีความเร็วต่อ Core สูงขึ้น แต่ติดเรื่องราคา และ spec. บางอย่างที่ดูแล้วเหมือนจะน้อยลง (แต่ยังไม่รู้ว่ามีผลมากไหม) เช่น M3 Pro จะมีจำนวน Performance Core ของ CPU, GPU, Memory Bandwidth ที่น้อยกว่า M2 Pro

โดย Macbook Pro M2 ที่ผมเลือก ได้ส่วนลดมาจำนวนหนึ่งที่ OK เลย และ ได้ SSD 1TB ที่ทำงานได้เร็วกว่า Macbook Pro M2 รุ่น 512GB เกือบเท่าตัว ได้จอแสดงผล Spec เดียวกันกับ Macbook Pro M3 ได้การเชื่อมต่อ HDMI 2.1, WIFI 6E, Buletooth 5.3 เหมือน Mabook Pro M3 และที่สำคัญประสิทธิ์ภาพน่าจะดีกว่า Macbook Pro M1 พอสมควร โดยต่ำกว่า Macbook Pro M3 ไม่มากนัก (รับได้)


Apple M3, M3 Pro, M3 Max เลือก Chip ตัวไหนดี

  • เน้นประหยัด เลือก M2 หรือ M3
  • เน้น CPU เน้นคุ้มค่า คุ้มราคา เลือก M2 Pro หรือ M3 Pro
  • เน้น GPU เน้นงานตัดต่อวีดีโอ, งาน 3D, งานที่ใช้ RAM เยอะ เลือก M2 Max หรือ M3 Max

สำหรับหัวข้อนี้ผมเลือก M2 Pro เนื่องจากงานที่ผมใช้จำเป็นต้องใช้ CPU เยอะ ไม่จำเป็นต้องใช้ GPU เยอะ ส่วน RAM 16GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

สรุปแล้วผมเลยได้ Macbook Pro M2 Pro ขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 16 นิ้ว โดยรุ่น Base Model ที่มี RAM 16GB มี SSD ขนาด 1TB ที่มีประสิทธิ์ภาพสูงและเพียงพอกับการใช้งาน และยังพกพาไปไหนมาไหนได้ ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ^_^

ทั้งนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้เลือกเครื่องที่ตรงกับที่ต้องการนะครับ

ตารางเปรียบเทียบ macbook แต่ละรุ่น


Update เพิ่มเติมหลังจากใช้งาน Macbook Pro M2 มาแล้วเกือบครึ่งปี

ข้อดี

  • เร็วกว่าเครื่องเดิมที่เป็น Macbook Pro รุ่น Intel หลายเท่าอยู่ (ก็นะ ถ้าช้ากว่าก็คงเศร้า)
  • ประหยัดแบตมาก เปิดใช้งานข้ามวันได้สบาย (ถ้าไม่ได้รันอะไรโหดๆ)
  • เล่นเกมส์ Roblox ได้ ฟาร์มข้ามคืน ไม่มีเสียงพัดลมกวนใจ เครื่องไม่ร้อนมาก (เมื่อเทียบกับ iPad M1)
  • งานวีดีโอ ทำได้ไวมาก เครื่องไม่ร้อน ทำไปยิ้มไป (คุ้มๆ)

ข้อสังเกตุ

  • ต้องติดตั้ง Windows สำหรับ ARM แบบเริ่มต้นใหม่ ใช้ VM เดิมที่เป็น x86 x64 ไม่ได้น่ะ
  • ต้องหาวิธีใช้ VPN แบบใหม่ อันนี้ไม่ค่อยสะดวก ต่อยาก หลุดบ่อยแบบไม่มีสาเหตุ แต่ก็พอจับทางได้ (ต้องคอย End Task หรือ Restart เครื่องตอนที่ VPN รวน)
  • ใช้ SQL Server ใน VM Windows ไม่ได้ ต้องใช้ Docker แทน
  • คิดถึง Touchbar ที่เคยมีใน Macbook Pro รุ่น Intel แต่ก็แลกมาด้วยปุ่ม Function Key ที่สะดวกกว่า (แอบสงสัยพื้นที่ข้างบนเหลือตั้งเยอะ ทำไมไม่ใส่ทั้ง 2 อย่าง)

แล้วเครื่องเก่าไปไหน

สรุปว่าหลังจากซื้อ ก็ได้นำเครื่องเก่าไปซ่อม เสียค่าซ่อมไปเกือบหมื่น (หน้าเศร้า ตัวเบาหวิว) ทำไงได้จะทิ้งก็เสียดาย จะขายก็ไม่คุ้ม สุดท้ายเอาไว้ให้ลูกใช้ต่อ (ให้แทนเครื่อง Notebook Windows ^_^)

บทความที่เกี่ยวข้อง

There are no related posts yet. 😢